รายละเอียดโครงการวิจัย
กลับไปหน้าโครงการวิจัยทั้งหมด

รหัสโครงการ :R000000664
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :การส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :Promotion of cultural products marketing to raise the economic base of community enterprises in Nakhon Sawan Province
คำสำคัญของโครงการ(Keyword) :การส่งเสริมการตลาด สินค้าวัฒนธรรม เศรษฐกิจฐานราก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม > ภาควิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิชาการออกแบบสร้างสรรค์เชิงธุรกิจ
ลักษณะโครงการวิจัย :โครงการวิจัยเดี่ยว
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ประเภทโครงการ :โครงการวิจัยใหม่
สถานะของโครงการ :แผนงานวิจัยหรือชุดโครงการวิจัยและโครงการวิจัยที่เสร็จสิ้นแล้ว
งบประมาณที่เสนอขอ :60000
งบประมาณทั้งโครงการ :60,000.00 บาท
วันเริ่มต้นโครงการ :17 มกราคม 2565
วันสิ้นสุดโครงการ :16 กรกฎาคม 2566
ประเภทของโครงการ :การวิจัยและพัฒนา
กลุ่มสาขาวิชาการ :มนุษยศาสตร์
สาขาวิชาการ :สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
กลุ่มวิชาการ :อื่นๆ
ลักษณะโครงการวิจัย :ไม่ระบุ
สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ : สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์
สร้างความร่วมมือประหว่างประเทศ GMS : ไม่สร้างความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างประเทศ
นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา :ไม่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาณภาพการศึกษา
เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต : ไม่เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เป็น “ผู้ประกอบการยุคใหม่” ที่ก้าวทันและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เนื่องจากการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการมีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตและความ เข้มแข็งของผู้ประกอบการจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้ โดยผู้ประกอบการยุคใหม่ จะต้องมีทักษะแห่งอนาคตที่มีความพร้อมทางด้านทัศนคติ ทักษะความสามารถ และความรู้สำ หรับการรับมือกับ การแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีได้ โดยมีเป้าหมายระดับประเด็น คือ ผู้ประกอบการในทุกระดับเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น (แผนการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580 ) จากแผนการพัฒนาดังกล่าว การนำการวิจัยและนวัตกรรม มาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย เป็นประเด็นที่สำคัญทางสังคมเพื่อให้เกิดการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิต ประชาชนในชุมชนให้มีทักษะดิจิทัลที่สูงขึ้น สามารถใช้ดิจิทัลอย่างชาญฉลาดทั้งในการดำรงชีวิต การพัฒนาอาชีพและรายได้ การดูแลรักษาสุขภาพ ตลอดจนการนำดิจิทัลไปใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างการเรียนรู้ร่วมกันของคนในชุมชน อีกทั้งยังเป็นกระบวนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น หน่วยงานราชการ และผู้ประกอบการในชุมชน ให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดการพัฒนาทักษะในการเสริมสร้างอาชีพใหม่ในชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการในสังคมดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น แนวทางการพัฒนาได้ถูกผลักดันให้นำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนาระดับท้องถิ่น แผนการพัฒนาจังหวัดนครสวรรค์ ในประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านการพัฒนาศักยภาพการผลิตทางการเกษตร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว กำหนดกลยุทธ์ให้มีการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชน และ SME เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มนำไปสู่การยกระดับเศษฐกิจฐานราก (แผนพัฒนาจังหวัดนครสวรรค์. 2561-2564 ) นอกจากนี้แผนการพัฒนาดังกล่าวยังสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างสรรค์การวิจัยเชิงพาณิชย์ พัฒนานวัตกรรมและพันธกิจสัมพันธ์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ( แผนปฏิบัติราชการและแผนปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์. 2564 ) ที่มุ่งพัฒนาบัณฑิตและบุคลากรควบคู่กับการพัฒนาท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท และจังหวัดอุทัยธานี ความสำคัญของที่มาดังกล่าว จึงนำมาสู่การดำเนินงาน การส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ ภายใต้แผนงาน เรื่อง การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าวัฒนธรรมเชิงนิเวศศิลป์ตามแนวเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเสริมพลังท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเสริมโอกาสในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ การดำเนินงานดังกล่าวเป็นการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของสาขาวิชาการออกแบบสร้างสรรค์เชิงธุรกิจ คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อชุมชนและสังคม โดยกำหนดพื้นที่ในการดำเนินงานเป็นพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ในกลุ่มผู้ประกอบการหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตสินค้าเชิงวัฒนธรรม ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากผ้าและเส้นใยย้อมสีธรรมชาติที่เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และเป็นนโยบายของทุกจังหวัด ที่มีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย กลุ่มผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาและกลุ่มผลิตภัณฑ์จากใบตองแห้ง เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่สร้างสรรค์จากนวัตกรรม และสามารถผลักดันเข้าสู่สินค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากฝุ่นไม้และกะลาที่เป็นสินค้าที่แสดงถึงความเป็นอัตลักษณ์จังหวัดนครสวรรค์ นั่นคือ ผลิตภัณฑ์มังกรปั้นมือจากฝุ่นกะลา และผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาบ้านมอญ ที่เป็นผลิตกลุ่มสินค้าที่บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการแรกของจังหวัดนครสวรรค์ โดยใช้องค์ความรู้แบบนิเวศน์ศิลป์ (Eco Art) ที่เป็นการเชื่อมโยงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยนำเอาการออกแบบที่นำทรัพยากรธรรมชาติหรือวัสดุธรรมชาติมาใช้โดยคำนึงถึงการทำให้เกิดมลภาวะกลับเข้าสู่ระบบนิเวศน์น้อยที่สุด (พศุตม์ กรรณรัตนสูตร. 2560) หรือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ( Green Product ) ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แก่ชุมชน บนฐานทุนวัฒนธรรมของชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ จากกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมศักยภาพชุมชน ที่ทำให้เกิดการสร้างมูลค่า (Value Creation) จากต้นทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชีวิต ต้นทุนทางธรรมชาติที่มีในพื้นที่ มาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมหรือการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) สู่การขยายตลาดหรือการหากลุ่มเป้าหมายใหม่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ผลิตสินค้าชุมชนสู่การเป็นผู้ประกอบการสร้างสรรค์ (Creative Entrepreneurs)เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเสริมพลังท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์ได้อย่างยั่งยืนต่อไป
จุดเด่นของโครงการ :เป็นงานวิจัยที่เน้นการการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์
วัตถุประสงค์ของโครงการ :1. เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 2. เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 3. เพื่อสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
ขอบเขตของโครงการ :1.ขอบเขตด้านพื้นที่ การวิจัย เรื่อง การส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ คณะผู้วิจัยได้กำหนดพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ 2.ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรและกลุ่มตัวอย่างสำหรับงานวิจัยในครั้งนี้ คณะผู้วิจัยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ SME ที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับสินค้าวัฒนธรรมเชิงนิเวศศิลป์ (Eco Art) หรือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ( Green Product )ที่เป็นการเชื่อมโยงการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยนำเอาการออกแบบที่นำทรัพยากรธรรมชาติหรือวัสดุธรรมชาติมาใช้โดยคำนึงถึงการทำให้เกิดมลภาวะกลับเข้าสู่ระบบนิเวศน์น้อยที่สุด ประกอบด้วย (1) ผู้ประกอบการประเภทผ้า เส้นใย และสิ่งทอ สีย้อมธรรมชาติ (2) ผู้ประกอบการประเภทฝุ่นกะลาและงานไม้ (3) ผู้ประกอบการประเภทเครื่องปั้นดินเผา 3. ขอบเขตด้านการออกแบบและพัฒนา (1)การสร้างแบรนด์กลาง สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 แบรนด์ (2)การสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์กลาง สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 รูปแบบ (3)การสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 1 ช่องทาง
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :1. ได้แบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 2. ได้บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 3. ได้ช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ :ชุติกาญจน์ ศรีวิบูลย์ และคณะ (2554) ทำการวิจัย เรื่อง การสร้างตราสินค้าของจังหวัดสมุทรสงคราม ศึกษาถึงการรับรู้และทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าของจังหวัดสมุทรสงคราม ศึกษาความคิดเห็นของผู้ประกอบการที่มีต่อสินค้าของจังหวัดสมุทรสงคราม แนวทางในการสร้างตรา สินค้าให้กับสินค้าของจังหวัดสมุทรสงคราม วางแผนกลยุทธ์ทางด้านการสื่อสารทางการตลาด ให้กับสินค้าของจังหวัดสมุทรสงคราม ผลการศึกษาพบว่า การสื่อสารตราสินค้าของจังหวัดสมุทรสงครามให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องทำการ สื่อสารให้มีความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภค และสอดคล้องไปกับวีถีชีวิตของผู้บริโภคให้ได้ความน่าเชื่อถือนั้นสามารถสร้างได้โดยหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของตราสินค้านั้นว่าเป็น อย่างไรความน่าเชื่อถือในตราสินค้าจะเกิดขึ้นได้ก่อต่อเมื่อการสื่อสารตราสินค้ามีความชัดเจน และไม่ไร้ทิศทาง นักสื่อสารตราสินค้าจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะหากไม่ชัดเจนในสายตาผู้บริโภคแล้วผู้บริโภคก็ไม่เชื่อถือในตราสินค้า การยอมรับในตราสินค้าก็จะไม่เกิดขึ้น การทำการสื่อสารตราสินค้าของจังหวัดสมุทรสงครามให้น่าเชื่อถือนั้น จะต้องพยายามใช้ วิธีการสื่อสารที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความใกล้ชิดกับตราสินค้า ซึ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า การที่สื่อสารตามกระแสของโลก การสื่อสารตราสินค้าของจังหวัดสมุทรสงครามจะต้องเข้าใจง่ายแต่กว่าจะค้นหาวิธีการที่จะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายนั้น จะต้องผ่านกระบวนการที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มีกลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว เพื่อให้ผู้บริโภครับสารได้ง่ายที่สุด การสื่อสารตราสินค้าที่ดีนั้นควรที่จะตอบสนองได้ทั้งมุม ของผู้บริโภค และมุมของผู้ประกอบการ เพราะในบางครั้งการสื่อสารสามารถทำให้ผู้บริโภคชื่นชอบได้แต่ไม่ช่วยสร้างยอดขายให้กับตราสินค้าได้ รพีพัฒน์ มั่นพรม และคณะ (2564) ทำการวิจัย เรื่อง การสร้างมูลค่าเพิ่มจากศิลปะและวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์กะลาและงานไม้ตำบลพระนอน อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของที่ระลึกกะลาและงานไม้ จากเอกลักษณ์ ศิลปะและวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดนครสวรรค์ และส่งเสริมด้านการตลาดบนสื่อออนไลน์ ผลการวิจัย พบว่า การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกของจังหวัดนครสวรรค์ ควรจะเลือกเป็นเอกลักษณ์จากสิ่งก่อสร้างหรือแลนด์มาร์ค เนื่องจากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ผนวกกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากกะลาและงานไม้ ที่มีสินค้าโดดเด่น นั่นคือ แบบจำลองรถตุ๊กตุ๊ก ดังนั้น ควรให้นำเอาเอกลักษณ์จากสิ่งก่อสร้างหรือแลนด์มาร์คออกแบบร่วมกับแบบจำลองรถตุ๊กตุ๊ก ในแนวคิดการใช้แบบจำลองรถตุ๊กตุ๊ก นำเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกจังหวัดนครสวรรค์ ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ โดยการสร้างสรรค์รูปแบบบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องกระดาษคราฟสีน้ำตาล สื่อถึงผลิตภัณฑ์กะลาและงานไม้ ออกแบบกราฟิกบรรจุภัณฑ์ที่สื่อถึงผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน เพิ่มเติมข้อมูลรายละเอียดที่สำคัญให้ครบถ้วนตามมาตรฐานการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และในส่วนสุดท้ายการพัฒนาด้านการส่งเสริมการตลาด โดยการพัฒนาตลาดออนไลน์ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและการโฆษณาสินค้า และการประชาสัมพันธ์กิจกรรมเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่ายให้ดีขึ้น ตลอดทั้งกระบวนการวิจัยได้ทำการบูรณาการกับการเรียนการสอนในศาสตร์สาขาวิชาการออกแบบสร้างสรรค์เชิงธุรกิจ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกับชุมชนสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน สกาวเดือน เชื้อสีดา และ คณะ (2560 ) ได้ทำการวิจัย เรื่อง การพัฒนาแผลกลยุทธ์การสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่น ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย จุดมุ่งหมายของการวิจัย คือ เพื่อพัฒนาสินค้าแฟชั่นจาก ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่อพัฒนาแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่น ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย และเพื่อประเมินแผนกลยุทธ์การ สร้างแบรนด์สินคาแฟชั่นผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาสินค้าแฟชั่นจาก ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงรายโดยได้แนวคิด (Concept) คือ การพลิกฟื้นวัฒนธรรม นํามาผสมผสานกับความนําสมัยเพื่อรักษาวัฒนธรรมไว้ให้ยั่งยืน (Revival of Culture) โดยโครงร่างชุดมี รูปแบบเรียบง่าย (Minimal style) ใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย นุ่มนวล ดูหรูหราในขณะเดียวกัน คือ สีเบจและสีขาว ทําการออกแบบทั้งหมด 5 ชิ้น ประกอบด้วย ชุดเดรสสั้น 1 ตัว เสื้อ 1 ตัว กระโปรง 1 ตัว กางเกง 1 ตัว และเสื้อสูท 1 ตัว โดยแต่ละ ชุดสามารถนํามาประยุกต์การใส่ด้วยกันได้ 2. การพัฒนาแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่น ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประกอบไปด้วย กลยุทธ์ที่ 1 : การสร้างแบรนด์กลยุทธ์ที่ 2 : การพัฒนาผลิตภัณฑ์กลยุทธ์ที่ 3 : การเพิ่มช่อง ทางการจัดจําหน่าย กลยุทธ์ที่ 4 : การส่งเสริมการการตลาด กลยุทธ์ที่ 5: การกําหนดเป้าหมายเพื่อเป็นผู้นําในด้านต่าง ๆ ในอนาคต 3. การประเมินแผนกลยุทธ์การสร้าง แบรนด์สินค้าแฟชั่น ผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พบว่าการ ประเมินความพึงพอใจในผลงานการออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าทอไทลื้อ อําเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ความเห็นโดยรวมว่าโดยรวมอยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมและเป็นไปได้มาก
ทฤษฎี สมมุติฐาน กรอบแนวความคิด :1.การสร้างแบรนด์ Brand หรือตราของผลิตภัณฑ์ คือ สัญลักษณ์ ภาพลักษณ์ ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยผู้ประกอบการหรือนักการตลาด เพื่อให้เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ ที่มีความเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทั้งในทางกายภาพ และจิตวิทยาโดยความเชื่อมโยงระหว่าง Brand และผลิตภัณฑ์ในทางจิตวิทยานั้น จะเกิดขึ้นได้เมื่อได้นำ Brand มาเป็นปัจจัยสนับสนุนกิจกรรมการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ เพื่อการจัดวางตำแหน่ง (Positioning) และการสร้างความภักดี (Loyalty) ใน Brand และผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคในตลาด ปัจจัยดังกล่าว ถือเป็น Key Success Factor ทางการตลาดในปัจจุบัน แม้แต่ผลิตภัณฑ์ซึ่งแต่เดิมไม่เคยเล็งเห็นถึงคุณค่าหรือความจำเป็นของ Brand เช่น ข้าวสาร น้ำตาลทราย รวมถึง ผลไม้ และพืชผักชนิดต่างๆ ยังได้เริ่มสร้าง Brand ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคในตลาดอย่างกว้างขวางแล้วเช่นกัน รูปแบบของการพัฒนา Brand ในปัจจุบันมีแนวทางการพัฒนา Brand ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและตลาดที่หลากหลาย ด้วยรูปแบบและแนวทางการพัฒนาที่มีการกล่าวถึงในปัจจุบัน ได้แก่ - Corporate Branding คือ การพัฒนา Brand ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ในตลาดไม่มีความแตกต่างกันมากนัก นักการตลาดจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาให้องค์กรเป็น Brand ที่น่าจดจำ เช่น Microsoft ธนาคารกสิกรไทย การบินไทย หรือ CP เป็นต้น - CEO Branding คือ การพัฒนา Brand ควบคู่ไปกับบทบาททางการตลาดของผู้บริหารระดับสูงขององค์กร กระทั่ง เกิดความเชื่อมโยงระหว่างผู้บริหาร องค์กร Brand และผลิตภัณฑ์ - Live Branding คือ การพัฒนา Brand ควบคู่กับการสร้างความจดจำในคุณลักษณะทางกายภาพของผลิตภัณฑ์ คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ด้วยกิจกรรมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก - Emotional Branding คือ การพัฒนา Brand ด้วยหลักการด้านอารมณ์ และความรู้สึกของผู้บริโภค ซึ่งจะเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์Fashion เครื่องประดับ ระดับ Brand Name นอกจากที่ได้กล่าวในข้างต้น ยังมีรูปแบบการพัฒนา Brand คือ Co-Branding และ Re-Branding ที่เป็นรูปแบบของการพัฒนา Brand ที่นักการตลาดหรือผู้ประกอบการจะเลือกใช้ตามความเหมาะสม แต่เหนืออื่นใด การพัฒนา Brand ต้องสามารถสร้างส่วนครองใจผู้บริโภคให้เกิดขึ้นให้ได้ เช่น หากนึกถึงเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพและสมอง ย่อมต้องนึกถึง Brand ซุปไก่ เป็นต้น (กระทรวงอุตสาหกรรม. 2559) 2. การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การบรรจุภัณฑ์ (Packaging) หรือการบรรจุหีบห่อนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญทั้งในทางเศรษฐกิจการขนส่งและการจำหน่ายสินค้าทุก ประเภท ทั้งนี้เพราะสินค้าแทบทุกชนิดจำเป็นต้องอาศัยการบรรจุหีบห่อแทบทั้งสิ้น ผลิตภัณฑ์มากกว่าร้อยละ 70 ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่ป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาวะสิ่งแวดล้อมภายนอก และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ให้นานที่สุด พร้อมทั้งก่อให้เกิดความสะดวกในการนำผลิตภัณฑ์ไว้ให้นานที่สุด พร้อมทั้งก่อให้เกิดความสะดวกในการนำผลิตภัณฑ์ออกใช้ นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ยังมีส่วนในการเพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์และเร่งเร้าให้ เกิดความต้องการเพื่อผลทางการตลาดอีกด้วย ด้วยเหตุดังกล่าว บรรจุภัณฑ์จึงได้รับความสำคัญขึ้นมาเป็นอย่างมาก และเป็นองค์ประกอบหลักที่ผู้ผลิตนำมาเป็นเครื่องมือสำหรับการแข่งขัน ซึ่งถ้าตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์มีฐานะเป็นพระเอก (The Lead) บรรจุภัณฑ์ก็เปรียบเสมือนพระรอง (The Subordinate)ที่นำมาเน้นย้ำการบริการตัวเองเป็นผู้ช่วยขายผลิตภัณฑ์ เพราะสามารถแสดงตัวหรือตราสินค้า (Brand) ต่อผู้ใช้ประจำได้อย่างรวดเร็ว และยังพยายามที่จะจูงใจผู้ที่ไม่เคยใช้ให้เกิดความสนใจอยากที่จะทดลองใช้ เป็นครั้งแรกอีกด้วย ดังสินค้าและบรรจุภัณฑ์จึงเป็นของคู่กันมาตลอด ยิ่งสินค้าผลิตภัณฑ์มีการคิดค้น การผลิต การแข่งขันมากเท่าใด การบรรจุภัณฑ์ก็จะได้รับการพัฒนาขึ้นตามไปมากเท่านั้น จนกระทั่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า บรรจุภัณฑ์มีความสำคัญสำหรับสินค้าและการตลาดอย่างจะขาดเสียซึ่งสิ่งหนึ่งใด มิได้ ทั้งนี้เพราะบรรจุภัณฑ์ได้แสดงหน้าที่และบทบาทในการตลาด (ประชิด ทิณบุตร. 2555) คือ 1. การบรรจุและการคุ้มครองป้องกัน (Containment and Protection) บรรจุภัณฑ์ที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเอื้ออำนวยหน้าที่ต่อการบรรจุและ การคุ้มครอง ซึ่งภาชนะจะต้องได้รับการออกแบบให้สามารถคุ้มครองผลิตภัณฑ์จากความเสียหาย อันเนื่องจากการขนส่ง ป้องกันการเน่าเสีย เก็บรักษาง่ายไม่เสื่อสลายไว ทั้งนี้เพราะผู้บริโภคย่อมไม่ต้องการที่จะได้รับอันตรายจากอาหารที่เป็นพิษ หรือบาดแผล อันเนื่องมาจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ 2. การบ่งชี้ผลิตภัณฑ์ (Identification) บรรจุภัณฑ์ต้องแสดงให้เห็นด้วย ผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภคทันที โดยการใช้ชื่อการค้า (Trade Name) เครื่องหมายการค้า (Trademark) ของผู้ผลิต แสดงชนิดและลักษณะประเภทของสินค้าเข้ามาเป็นเครื่องบ่งชี้ ให้ผู้บริโภคมองเห็นได้ง่าย ด้วยการใช้รูปร่าง รูปทรง ขนาด ตัวอักษร สีสัน ที่เด่นชัดและแสดงความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์แข่งขันอื่น ๆ เพื่อให้จดจำได้ง่าย 3. การอำนวยความสะดวก (Convenience) ในแง่ของการผลิตและการตลาด นั้น บรรจุภัณฑ์ต้องเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการขนส่งและการเก็บรักษาในคลังสินค้า ซึ่งต้องมีความมั่นคงแข็งแรง สามารถที่จะวางเรียงซ้อน (Stacking) กันได้ง่าย ขนาดและรูปร่างจึงต้องมีความพอเหมาะ (Fitness Size) และยังต้องง่ายต่อการนำไปวางเรียงในชั้นวางของขายตามร้านค้าหรือแสดงโชว์ (Easy to Stack and Display) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกต่อผู้บริโภคนั้น เป็นการอำนวยความสะดวกในแง่ของการนำไปใช้สอยตามหน้าที่ของผลิตภัณฑ์แต่ละ ชนิด ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามประเภทการใช้งานและการเก็บรักษา ดังนั้นผู้ออกแบบจึงต้องออกแบบให้มีความเหมาะสมกับพฤติกรรมและสรีระร่างกาย ของผู้บริโภค เช่นมีขนาดที่เหมาะกับมือสะดวกต่อการจับ ถือ หิ้ว มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับภาวะของการใช้งาน เป็นต้น 4. การดึงดูดความสนใจผู้บริโภค (Consumer Appeal) การที่บรรจุภัณฑ์จะ สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้ดีนั้น เป็นผลมาจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง อาทิเช่น ขนาด รูปร่าง รูปทรง สีสัน วัสดุ ข้อความ ตัวอักษร การแนะนำวิธีใช้ ฯลฯ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า สิ่งที่ปรากฏเห็นเป็นบรรจุภัณฑ์มีการดึงดูดความสนใจผู้บริโภคนี้เป็นหน้าที่ ของนักออกแบบที่จะต้องสร้างสรรค์สิ่งประกอบต่าง ๆ นี้ ให้เกิดประสิทธิภาพทางการสื่อสารและให้เกิดผลกระทบทางจิตใจ จิตวิทยาต่อผู้บริโภค หรือตรงกับความต้องการของผู้บริโภค (To Fit the Consumer’s Need) 5. การเศรษฐกิจ (Economy) บรรจุภัณฑ์มีบทบาทและหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือเป็นองค์ประกอบร่วมในการกำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์ เพราะถือว่าเป็นต้นทุนการผลิต (Production Cost) อีกอันหนึ่งที่ทำให้เกิดผลกำไร เกิดการจ้างงานตลอดจนการนำเอาทรัพยากรอื่น ๆ เข้ามาใช้ และทำให้บรรจุภัณฑ์มีหน้าที่ดังที่กล่าวมาปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการกำหนดราคาและทำให้เกิดการหมุนเวียนในแง่ของการเศรษฐกิจ 3. แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) คือ การสร้างมูลค่าสินค้า หรือบริการที่เกิดจากความคิดของมนุษย์ สำหรับสาขาการผลิตที่พัฒนาไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์จะเรียกว่า“อุตสาหกรรม สร้างสรรค์” (Creative Industry) ซึ่งหมายถึงกลุ่มกิจกรรมการผลิตที่ต้องพึ่งพาความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่ง สำคัญ “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” คือแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้(Knowledge) การศึกษา (Education) การสร้างสรรค์งาน (Creativity) และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual property) ที่เชื่อมโยงกับรากฐานทางวัฒนธรรม การสั่งสมความรู้ทางสังคม และเทคโนโลยี/นวัตกรรมสมัยใหม่ ขอบเขตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของ UNCTAD และของไทย องค์กรความร่วมมือเพื่อการค้าและการพัฒนา UNCTAD (UnitedNation ConferenceonTradeandDevelopment) ได้ กำหนดขอบเขตของเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีรายละเอียดดังนี้ 1. ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม (Culture Heritage) อุตสาหกรรมประวัติศาสตร์โบราณคดีประเพณีความเชื่อ และ สภาพทางสังคม มี 2 กลุ่ม คือ 1.1 กลุ่มการแสดงออกทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม (Traditional Cultural Express) เช่น ศิลปะและงานฝีมือ เทศกาล งานและงานฉลอง เป็นต้น 1.2 กลุ่มที่ตั้งทางวัฒนธรรม (Culture Sites) เช่น โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด และการแสดงนิทรรศการ เป็นต้น 2. ประเภทศิลปะ (Arts) เป็นกลุ่มสื่อผลิตงานสร้างสรรค์ ที่สื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ มีอีก 2 กลุ่ม คือ 2.1 งานศิลปะ (Visual Arts) เช่น ภาพวาด รูปปั้น ภาพถ่ายและวัตถุโบราณ เป็นต้น 2.2 ศิลปะการแสดง (PerformingArts) เช่นการแสดง ดนตรีการแสดงละคร การเต้นรำ โอเปร่า ละครสัตว์และการ เชิดหุ่นกระบอก เป็นต้น 3. ประเภทสื่อ (Media) เป็นกลุ่มผลิตงานสร้างสรรค์ที่ สื่อสารกับคนกลุ่มใหญ่ มี2 กลุ่ม คือ 3.1 งานสื่อสิ่งพิมพ์ (PublishingandPrintedMedia) เช่น หนังสือ หนังสือพิมพ์และสิ่งตีพิมพ์อื่นๆ 3.2 งานโสตทัศน์ (Audio Visual) เช่น ภาพยนตร์ โทรทัศน์วิทยุและการออกอากาศอื่นๆ 4. ประเภทหน้าที่ (Function Creation) เป็นกลุ่มของ สินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่าง กัน มี 3 กลุ่ม คือ 4.1 กลุ่มออกแบบ (Design) เช่นการออกแบบภายใน กราฟิก แฟชั่น อัญมณีและของเด็กเล่น เป็นต้น 4.2. กลุ่มสื่อสมัยใหม่ (New Media) เช่น ซอฟต์แวร์ วิดีโอเกมส์และเนื้อหาดิจิตอล เป็นต้น 4.3 กลุ่มบริการทางความคิดสร้างสรรค์ (Creative Services) เช่นบริการทางสถาปัตยกรรมโฆษณา วัฒนธรรมและ นันทนาการ งานวิจัยและพัฒนา บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :วิธีดำเนินการวิจัย 1. การสร้างแบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ การสร้างแบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 1 วัน เพื่อร่วมสร้างสรรค์แบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 2. การสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ การสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 1 วัน เพื่อจัดทำต้นแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 3. การสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ การสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 1 วัน เพื่อสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การสร้าง Facebook Fanpage การจัดจำหน่าย ผ่านระบบ Line หรือ จัดจำหน่ายใน Shopee เพื่อการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 4. การจัดงานแสดงสินค้าวัฒนธรรมเชิงนิเวศศิลป์จังหวัดนครสวรรค์ การจัดงานแสดงสินค้าวัฒนธรรมเชิงนิเวศศิลป์จังหวัดนครสวรรค์ (ตลาดสินค้าวัฒนธรรม) จำนวน 2 วัน เพื่อจัดแสดงสินค้า จำหน่าย และจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการการถ่ายทอดกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ประเภท 5. การเผยแพร่ผลงานวิจัยและการนำไปใช้ประโยชน์ (1) การเผยแพร่ผลงานวิจัย โดยการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการในกลุ่มวารสาร TCI กลุ่ม 2 หรือ วารสารการวิจัยรับใช้สังคม (2) ส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์ที่ได้จากงานวิจัย จัดจำหน่ายบนตลาดอีเล็กทรอนิกส์
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :วิจัยการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 2. เพื่อสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และ 3. เพื่อสร้างช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ผลที่ได้รับจากกระบวนการวิจัย 1. ได้แบรนด์สินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ 2. ได้บรรจุภัณฑ์สำหรับการส่งเสริมการตลาดสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และ 3. ได้ช่องทางการตลาดอิเล็กทรอนิกส์ให้กับสินค้าวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์
จำนวนเข้าชมโครงการ :108 ครั้ง
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ
ชื่อนักวิจัยประเภทนักวิจัยบทบาทหน้าที่นักวิจัยสัดส่วนปริมาณงาน(%)
นางสาวสุจิตรา อยู่หนู บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยหัวหน้าโครงการวิจัย50
นายรพีพัฒน์ มั่นพรม บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้ร่วมวิจัย20
นางสาวกันยาพร กุณฑลเสพย์ บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้ร่วมวิจัย15
นายนัฐท์ธีรนนช์ รอดชื่น บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้ร่วมวิจัย15

กลับไปหน้าโครงการวิจัยทั้งหมด