รายละเอียดโครงการวิจัย
กลับไปหน้าโครงการวิจัยทั้งหมด

รหัสโครงการ :R000000473
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :The Development of Enrichment English Skills Learning Management Model for Learning Disabilities Primary School Students
คำสำคัญของโครงการ(Keyword) :รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้เรียนที่มมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ทักษะการอ่าน ทักษะการเขียน
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :คณะครุศาสตร์ > ภาควิชาหลักสูตรและการสอน สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
ลักษณะโครงการวิจัย :โครงการวิจัยเดี่ยว
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :ไม่อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ประเภทโครงการ :โครงการวิจัยใหม่
สถานะของโครงการ :propersal
งบประมาณที่เสนอขอ :157000
งบประมาณทั้งโครงการ :157,000.00 บาท
วันเริ่มต้นโครงการ :01 ตุลาคม 2560
วันสิ้นสุดโครงการ :28 สิงหาคม 2562
ประเภทของโครงการ :งานวิจัยเพื่อการเรียนการสอน
กลุ่มสาขาวิชาการ :สังคมศาสตร์
สาขาวิชาการ :สาขาการศึกษา
กลุ่มวิชาการ :อื่นๆ
ลักษณะโครงการวิจัย :ระดับชาติ
สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ : สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์
สร้างความร่วมมือประหว่างประเทศ GMS : ไม่สร้างความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างประเทศ
นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา :ไม่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาณภาพการศึกษา
เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต : ไม่เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :เด็กที่มีความพิการ มีปัญหาทางการเรียนรู้ หรือ แอลดี (Learning Disabilities - LD) หมายถึง ความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือเด็กแอลดี จึงหมายถึง เด็กที่มีความบกพร่องเกี่ยวกับกระบวนการทางจิตวิทยา ความบกพร่องทางการใช้ภาษา การพูด การอ่าน การเขียน การฟัง การสะกดคำ การคิด การให้เหตุผล การคำนวนทางคณิตศาสตร์ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ ความบกพร่องทางการรับรู้ การสร้างความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การแก้ปัญหาการตอบสนอง การใช้สมาธิ การจำแนก การใช้สายตา การสัมผัส การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเด็กแอลดีจะเหมือนเด็กทั่วไปที่มีสติปัญญาและไอคิวปกติหรืออาจสูงกว่าปกติ แต่มีความบกพร่องในเรื่องบางอย่างโดยเฉพาะเรื่องการอ่านหนังสือ การเขียนหนังสือ และการคิดคำนวณ ผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้จะมีความสามารถต่ำกว่าชั้นเรียนประมาณ 2 ชั้นปี คือ อาจเรียนอยู่ชั้น ป.4 แต่ความสามารถด้านการอ่านหรือการเขียนหรือการคำนวณอยู่ในระดับ ป.1 – ป.3 มีการวินิจฉัยกันว่า เป็นเรื่องของวงจรการทำงานของสมองคล้ายวงจรไฟฟ้าติดๆ ดับๆ (รศ.พญ.ศันสนีย์ ฉัตรคุปต์, 2551)
จุดเด่นของโครงการ :-
วัตถุประสงค์ของโครงการ :เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา
ขอบเขตของโครงการ :1. ขอบเขตด้านพื้นที่ พื้นที่ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาท 2. ขอบเขตด้านประชากร ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ประกอบด้วย ผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษา 2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ อุทัยธานี และชัยนาท ประกอบด้วย ศึกษานิเทศก์ 3. สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ และผู้ปกครอง 3. ขอบเขตด้านเนื้อหา ได้แก่ การวิจัยนี้เน้นเนื้อหาภาษาอังกฤษตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตามสาระและมาตรฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดับประถมศึกษา ประกอบด้วย การอ่านและการเขียนตัวอักษร คำศัพท์ กลุ่มคำ ประโยคง่ายๆ บอกความหมายคำศัพท์และกลุ่มคำที่มีความหมาย มาใช้ในกระบวนการวางแผนพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :สถานศึกษาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อเป็นการพัฒนาและส่งเสริมทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้
การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ :-
ทฤษฎี สมมุติฐาน กรอบแนวความคิด :กระบวนการเรียนรู้ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ดังนี้ (จรีลักษณ์ จิรวิบูลย์, 2551) ขั้นตอนที่ 1 การรับรู้ข้อมูลจากประสาทสัมผัสต่างๆ ขั้นตอนที่ 2 การแปลความข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล ขั้นตอนที่ 3 ความจำและการดึงข้อมูลมาใช้ ขั้นตอนที่ 4 การนำข้อมูลมาใช้ในรูปแบบของภาษา ขั้นตอนที่ 5 การเคลื่อนไหวและประสาทสัมผัสทางการเคลื่อนไหว
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยครั้งนี้ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเก็บข้อมูล โดยใช้เทคนิค AIC และPRA สำรวจ สัมภาษณ์เจาะลึก การสังเกต และทดลองปฏิบัติการตามแนวทางที่ได้
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :-
จำนวนเข้าชมโครงการ :430 ครั้ง
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ
ชื่อนักวิจัยประเภทนักวิจัยบทบาทหน้าที่นักวิจัยสัดส่วนปริมาณงาน(%)
นางสาวเนรัญชลา จารุจิตร บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยหัวหน้าโครงการวิจัย60
นางสาวอาภากร โพธิ์ดง บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้ร่วมวิจัย20
นางสาวนิพัทธา สังข์ยก บุคลากรภายในมหาวิทยาลัยผู้ร่วมวิจัย20

กลับไปหน้าโครงการวิจัยทั้งหมด