รหัสโครงการ : | R000000216 |
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) : | การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรจากพืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์ |
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) : | Herbal food and beverage development from medicinal plants in Nakhon Sawan province |
คำสำคัญของโครงการ(Keyword) : | Herbal food, Herbal beverage |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ : | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี > ภาควิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีววิทยา และเทคโนโลยีชีวภาพ |
ลักษณะโครงการวิจัย : | โครงการวิจัยเดี่ยว |
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย : | อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย |
ประเภทโครงการ : | โครงการวิจัยใหม่ |
สถานะของโครงการ : | propersal |
งบประมาณที่เสนอขอ : | 89000 |
งบประมาณทั้งโครงการ : | 89,000.00 บาท |
วันเริ่มต้นโครงการ : | 19 กุมภาพันธ์ 2559 |
วันสิ้นสุดโครงการ : | 18 กุมภาพันธ์ 2560 |
ประเภทของโครงการ : | งานวิจัยประยุกต์ |
กลุ่มสาขาวิชาการ : | วิทยาศาสตร์การแพทย์ |
สาขาวิชาการ : | สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา |
กลุ่มวิชาการ : | วิทยาศาสตร์ชีวภาพ |
ลักษณะโครงการวิจัย : | ระดับชาติ |
สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ : | สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ |
สร้างความร่วมมือประหว่างประเทศ GMS : | ไม่สร้างความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างประเทศ |
นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา : | ไม่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาณภาพการศึกษา |
เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต : | ไม่เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต |
ความสำคัญและที่มาของปัญหา : | อาหารจัดเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ส่วนเครื่องดื่มต่างๆ นั้นก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งในแต่ละวันมนุษย์ทุกคนต้องมีการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเป็นประจำ ประกอบกับในปัจจุบันนี้ มีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายประเภทให้เลือกบริโภค ซึ่งข้อดีก็คือเป็นทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในการบริโภค แต่ทว่า อาหารและเครื่องดื่มในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีในรูปของสารปรุงแต่งรสชาติ เช่น โซเดียม น้ำตาล ฯลฯ เป็นจำนวนมาก และหากผู้บริโภคมีการบริโภคเป็นประจำก็จะเกิดการสะสมในร่างกาย และส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพพลานามัยของมนุษย์ ทำให้เกิดโรค หรือความผิดปกติต่างๆ ในร่างกาย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว มนุษย์ในปัจจุบันนี้ จึงเริ่มหันกลับไปสนใจแหล่งวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งได้แก่สมุนไพรนานาชนิดโดยสมุนไพรถูกใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบในธรรมชาติที่มีการศึกษาและใช้บริโภคมาช้านานแล้ว เนื่องจากสมุนไพรมีสรรพคุณในการรักษาโรค เสริมสร้าง และบำรุงร่างกาย ดังนั้นสมุนไพรจึงเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
จากการสำรวจสมุนไพรที่พบในจังหวัดนครสวรรค์นั้น พบว่า มีความหลากหลายของสมุนไพรหลากหลายชนิด โดยสมุนไพรแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณในด้านการรักษาโรค เสริมสร้าง และบำรุงร่างกายแตกต่างกันไป คณะผู้จัดทำ จึงได้เลือกสมุนไพรที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นมาผลิตเป็นอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโดยใช้วิธีการผลิตที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ซึ่งนอกจากจะทำให้ประชาชนสามารถนำไปผลิตและบริโภคได้ในครัวเรือนแล้ว ประชาชนยังสามารถนำไปประกอบอาชีพได้อีกด้วย |
จุดเด่นของโครงการ : | เป็นงานวิจัยที่สร้างความเข้มแข็งให้แก่สังคมเกษตรกรรมให้มีรายได้จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรขึ้นมา |
วัตถุประสงค์ของโครงการ : | 1. เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชสมุนไพร
2. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ในการสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่ชุมชน
3. เพื่อทำให้เกิดชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ทั้งการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อการบริโภคในครัวเรือนภายในชุมชนหรือจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ |
ขอบเขตของโครงการ : | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยประยุกต์ที่มีขอบเขตของการวิจัยดังนี้
1.ประชากรที่ศึกษา คือ พืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
2. พื้นที่เป้าหมาย คือ บ้านเนื้อร้อน อ.หนองข่าหย่าง จังหวัดอุทัยธานี
3. ทำการสืบค้นข้อมูลในด้านฤทธิ์ของพืชสมุนไพรที่มีในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อคัดเลือกพืชสมุนไพรที่น่าสนใจและเหมาะสมต่อการนำมาต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรประเภทต่างๆ
4. ทำการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เหมาะสมต่อการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรแก่ประชาชนในกลุ่มอำเภอเป้าหมาย
5. ช่วงเวลาของการวิจัยตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2558 – เดือนกันยายน 2559
6.ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
6.1 พืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
6.2 ฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
6.3 ผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
6.4 การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
7. พืชสมุนไพร หมายถึง พืชที่ใช้ ทำเป็นเครื่องยา ซึ่งได้มาจากธรรมชาติในจังหวัดนครสวรรค์ และมีสรรพคุณในการรักษาโรคหรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ รวมถึงใช้ในการส่งเสริมสุขภาพร่างกายได้ พืชสมุนไพรนอกจากจะใช้เป็นยาแล้ว ยังใช้ประโยชน์เป็นอาหาร ใช้เตรียมเป็นเครื่องดื่ม ใช้เป็นอาหารเสริม เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ใช้แต่งกลิ่น แต่งสีอาหาร |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ : | 1. ได้ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชสมุนไพรในจังหวัดนครสวรรค์
2. สถานศึกษานำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอน
3. เผยแพร่องค์ความรู้ในเวทีวิชาการและวารสารวิจัย
4. บุคคลที่สนใจ สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรได้อย่างถูกต้อง
5. สร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ได้รับการบริการทางด้านวิชาการจากการทำวิจัย |
การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ : | ชวนพิศ และสมพงษ์ (2552) ได้ทำการศึกษากรรมวิธีที่เหมาะสมในการผลิตชาใบรางจืด พบว่าที่กระบวนการแปรรูปชาใบรางจืดที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8 ชั่วโมง เป็นอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสมต่อการอบใบรางจืดและเมื่อนำชาใบรางจืดมาผสมกับน้ำผึ้งและน้ำส้มจี๊ด พบว่า การใช้ชาใบรางจืดในอัตราส่วนร้อยละ 45 นั้นทำให้ผลิตภัณฑ์ชาที่ได้นั้นมีรสชาติ กลิ่น รส เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
สุนันทา (2556) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ชาจากเปลือกกล้วยน้ำว้า ซึ่งมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย เช่น ช่วยในการขับถ่ายป้องกันมะเร็งในลำไส้ ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดในสมองตีบ ลดระดับโคเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด และยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในอาหาร
จิราภัทร และคณะ (2558) ได้ทำการพัฒนาชาสมุนไพรใบย่านาง 3 สูตร ได้แก่ ใบย่านางล้วน ใบย่านางผสมเก๊กฮวย และใบย่านางผสมใบเตย พบว่าทั้ง 3 สูตรให้ผลการยับยั้งและต่อต้านการเกิดสารอนุมูลได้เป็นอย่างดี
นันทิยา และปรีดาวรรณ (2551) ได้ทำการศึกษาการผลิตแยมสับปะรดที่ผสมสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ผงบุก ขิง และว่านหางจระเข้ เป็นต้น |
ทฤษฎี สมมุติฐาน กรอบแนวความคิด : | สรรพคุณที่มีอยู่มากมายในพืชสมุนไพรต่อการนำมารักษาสุขภาพนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ด้วยการขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนถึงสรรพคุณของพืชสมุนไพรทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการที่จะนำทรัพยากรพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าในท้องถิ่นของตนเองมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ งานวิจัยนี้จึงได้มุ่งเน้นที่จะศึกษาและแปรรูปสมุนไพร โดยอาศัยข้อมูลในส่วนของฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสมุนไพรในท้องถิ่นจังหวัดนครสวรรค์ที่ได้รวบรวมจากงานวิจัยที่ผ่านมาหรือมีผู้ศึกษาไว้แล้ว โดยผู้วิจัยจะคัดเลือกพืชสมุนไพรที่น่าสนใจมาพัฒนาต่อยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากสมุนไพร เช่น น้ำสมุนไพรต่างๆ ชาจากสมุนไพร และแยมจากสมุนไพร เป็นต้น พร้อมทั้งมีการออกแบบผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากสมุนไพรให้สวยงาม รวมถึงทำการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ สู่ชุมชนในท้องถิ่นต่อไป |
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล : | การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชสมุนไพร
1 ประชากรที่ศึกษา
- พืชสมุนไพรชนิดต่างๆ ในจังหวัดนครสวรรค์
2. กลุ่มตัวอย่าง
- พืชสมุนไพรทั้งแบบสดและแห้ง ในจังหวัดนครสวรรค์
3. วิธีการศึกษา
ทดสอบการออกฤทธิ์ทางชีวภาพของพืชสมุนไพรบางชนิด
- ทำการสกัดสมุนไพรที่ได้ทำการคัดเลือกไว้ด้วยตัวทำละลายน้ำนำมาระเหยตัวทำละลายด้วย เครื่อง evaporator เก็บสารสกัดที่ได้ในขวดสีชา และนำไปเก็บรักษาในตู้เย็นเพื่อรอทดสอบ
- นำสารสกัดที่ได้จากพืชสมุนไพรต่างๆและยาปฏิชีวนะ (ตัวควบคุมบวก) มาทำการทดสอบการ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารด้วยวิธี agar well diffusion บ่มเพาะเชื้อ สังเกตวงใส
- นำสารสกัดที่ได้มาทำการทดสอบกิจกรรมในการต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระด้วยวิธีที่เหมาะสม
พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากพืชสมุนไพร
- ผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพร
นำส่วนของพืชสมุนไพรที่สนใจและให้ฤทธิ์ทางชีวภาพที่เหมาะสม เช่น เปลือก ใบ เป็นต้น นำชิ้นส่วนดังกล่าวมาทำความสะอาดนำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม จากนั้นนำไปบดด้วยขนาดแรงที่เหมาะสมทำการบรรจุใส่ถุง นำไปทดสอบการยอมรับทางประสาทสัมผัสเป็นคะแนนสำหรับชาแต่ละชนิด
- ผลิตภัณฑ์แยมผลไม้ผสมสมุนไพร
นำผลไม้ที่เลือกไว้มาทำการหั่นหรือปั่นแบบหยาบๆ ผสมเพคติน น้ำตาลทรายในอัตราส่วนที่เหมาะสมคนให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำและตั้งไฟอ่อนๆ คนตลอดเวลา ใส่ส่วนประกอบอื่นๆเช่น เกลือ และใส่ผงสมุนไพรที่คัดเลือกไว้ เคี่ยวจนน้ำแห้งและเนื้อแยมหนืด นำไปทดสอบการยอมรับทางประสาทสัมผัสเป็นคะแนนสำหรับแยมแต่ละชนิด |
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) : | เป็นงานวิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชนที่ทีมวิจัยออกให้บริการวิชาการในด้านการพัฒนาเครื่องดื่มและอาหารจากสมุนไพร |
จำนวนเข้าชมโครงการ : | 395 ครั้ง |