รหัสโครงการ : | R000000175 |
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) : | การอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน ของการเรีย |
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) : | Conservation and Development Folk Music Cultural based on Learning Community |
คำสำคัญของโครงการ(Keyword) : | การอนุรักษ์และพัฒนา (Conservation and Development) วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน (Folk Music Cultural) ชุมชนเรียนรู้ (Learning Community) |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ : | คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ > สาขาวิชาดนตรี |
ลักษณะโครงการวิจัย : | โครงการวิจัยเดี่ยว |
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย : | ไม่อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย |
ประเภทโครงการ : | โครงการวิจัยใหม่ |
สถานะของโครงการ : | propersal |
งบประมาณที่เสนอขอ : | 500000 |
งบประมาณทั้งโครงการ : | 500,000.00 บาท |
วันเริ่มต้นโครงการ : | 01 ธันวาคม 2557 |
วันสิ้นสุดโครงการ : | 30 พฤศจิกายน 2558 |
ประเภทของโครงการ : | งานวิจัยประยุกต์ |
กลุ่มสาขาวิชาการ : | มนุษยศาสตร์ |
สาขาวิชาการ : | สาขาปรัชญา |
กลุ่มวิชาการ : | ปรัชญา |
ลักษณะโครงการวิจัย : | ระดับชาติ |
สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ : | สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ |
สร้างความร่วมมือประหว่างประเทศ GMS : | ไม่สร้างความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างประเทศ |
นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา : | นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาณภาพการศึกษา |
เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต : | ไม่เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต |
ความสำคัญและที่มาของปัญหา : | ผลของการพัฒนาประเทศชาติตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้การเกิดละเลยองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในท้องถิ่น การละเลยระบบสังคมวัฒนธรรม ตลอดจนขาดข้อมูลพื้นฐานของชุมชนเพื่อกำหนดผลลัพธ์ของการพัฒนา ด้วยสภาพดังกล่าวผนวกกับในสภาวการณ์ปัจจุบันสังคมไทยได้ชื่อว่าเป็นสังคมที่กำลังเผชิญหน้ากับความหลากหลายของวัฒนธรรมโลกในศตวรรษที่ 21 หรือสังคมยุคโลกาภิวัตน์ และกำลังก้าวเข้าสู่สังคมประชาคมอาเซียนในปี 2558 ทั้งนี้เนื่องจากการเปิดรับการอพยพย้ายถิ่นไปมาระหว่างชนชาติต่างๆทั่วโลกอย่างอิสระ ส่งผลให้ค่านิยมต่างๆของคนไทยในปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่ได้มีการปรับหรือปรุงแต่งให้เข้ากับภูมิปัญญาไทยให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว ทำให้เกิดปฏิกิริยาในหมู่ผู้ที่รักและรู้คุณค่าในศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยอยู่ในชุมชน นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้ชุมชนชนบทประสบปัญหาชุมชนล่มสลายและวัฒนธรรมชุมชนถูกทำลาย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 66 ให้สิทธิบุคคลและชุมชนมีสิทธิอนุรักษ์ ฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและของชาติ ดนตรีพื้นบ้านเป็นศิลปวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่แฝงอยู่ในรูปของการละเล่นของไทย ที่นับวันจะตายไปหรือกลายเป็นรูปไปเป็นอย่างอื่น แม้ปัจจุบันจะมีการส่งเสริมฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแต่นั่นเป็นแต่เพียงการ “แสดง” เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค แม้แต่สถาบันการศึกษาได้นำเอาดนตรีพื้นบ้านมาบรรจุในหลักสูตรแต่ก็เป็นเพียงการศึกษา “เพื่อรู้” มากกว่า “เพื่ออนุรักษ์” คือรู้แล้วก็ปล่อยทิ้งไป เพราะไม่อาจทวนกระแสความรู้สึกตามค่านิยมของคนปัจจุบันได้
จังหวัดนครสวรรค์ เป็นจังหวัดที่มีต้นทุนทางวัฒนธรรมสูง อาทิเช่น วัด แหล่งโบราณสถานต่างๆ ภูมิปัญญาพื้นบ้าน วัฒนธรรมประเพณี และงานประเพณีที่ยังคงสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านที่โดดเด่นและปรากฏชัดในจังหวัดนครสวรรค์ เช่น กลองยาว และเพลงพื้นบ้าน จัดได้ว่าเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีความสัมพันธ์กับวิถีของชุมชนอย่างแน่นแฟ้น กล่าวคือมีบทบาทต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน เช่น การตีกลองยาวบรรเลงในประเพณีพิธีกรรม ตลอดถึงการละเล่นเพลงพื้นบ้านทั่วไป จากสภาวะสังคมที่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีของชุมชนต่อกระแสทุนนิยมโลก การดำรงตนอย่างมีพลวัตนับเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของท้องถิ่นและสังคม ดังนั้นการเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ จึงเป็นกระบวนการสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดขึ้นในชุมชนเพื่อพัฒนาให้เป็นสังคมแห่งภูมิปัญญา โดยบูรณาการแนวคิดด้านสังคม วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น การคิดเชิงระบบ การจัดการความรู้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้หรือศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน อันเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านดำรงอยู่ รวมถึงการพยายามสร้างวัฒนธรรมจากคุณค่าทางสังคมให้เกิดมูลค่าและคุณค่าทางสังคม จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานหรือทุกคนควรมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาต่อยอดให้เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นและประจำชาติไทยให้ยั่งยืนสืบทอดและเป็นที่รู้จักของคนรุ่นต่อไป อันนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคมฐานความรู้ในทุกระดับ และสร้างความพร้อมของชุมชนสังคมเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
|
จุดเด่นของโครงการ : | - |
วัตถุประสงค์ของโครงการ : | 1. เพื่อศึกษารวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านของจังหวัด
นครสวรรค์
2. เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านของจังหวัดนครสวรรค์โดยใช้ชุมชนเป็นฐานของการเรียนรู้
|
ขอบเขตของโครงการ : | ขอบเขตด้านพื้นที่
อำเภอเมือง อำเภอท่าตะโก อำเภอชุมแสง อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านยังปรากฏอยู่
ขอบเขตด้านเนื้อหา
1. สำรวจวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านในจังหวัดนครสวรรค์ โดยจัดทำเป็นฐานข้อมูลและแผนที่วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน
2. ศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการของชุมชนด้านวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน
2. การสร้างกลุ่ม/เครือข่ายวัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้านและแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมดนตรีพื้นบ้าน
3. พัฒนาคนในชุมชนให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ ทางดนตรีพื้นบ้านอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การตีกลองยาว การขับร้องเพลงพื้นบ้าน การซ่อม/ สร้างเครื่องดนตรีพื้นบ้าน
ขอบเขตด้านเวลา
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558
|
ผลที่คาดว่าจะได้รับ : | - |
การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ : | 1 แนวคิดการวัฒนธรรมชุมชน
2 แนวคิดเกี่ยวการเรียนรู้ของชุมชน
3 แนวคิดเกี่ยวกับศูนย์เรียนรู้ชุมชน
4 แนวคิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชุมชน
5 แนวคิดเกี่ยวกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม
|
ทฤษฎี สมมุติฐาน กรอบแนวความคิด : | - |
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล : | - |
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) : | - |
จำนวนเข้าชมโครงการ : | 699 ครั้ง |