รหัสโครงการ : | R000000018 |
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) : | การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา |
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) : | To develop innovative products to enhance the value chain of rice. Community enterprise Nile Chao Phraya river. |
คำสำคัญของโครงการ(Keyword) : | โซ่อุปทานข้าว ( Supply Chain of Rice) นวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า (Innovation to value creation) |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ : | คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม |
ลักษณะโครงการวิจัย : | โครงการวิจัยเดี่ยว |
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย : | ไม่อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย |
ประเภทโครงการ : | โครงการวิจัยใหม่ |
สถานะของโครงการ : | propersal |
งบประมาณที่เสนอขอ : | 300000 |
งบประมาณทั้งโครงการ : | 300,000.00 บาท |
วันเริ่มต้นโครงการ : | 01 ตุลาคม 2556 |
วันสิ้นสุดโครงการ : | 30 กันยายน 2557 |
ประเภทของโครงการ : | งานวิจัยพื้นฐาน(ทฤษฎี)/บริสุทธิ์ |
กลุ่มสาขาวิชาการ : | วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ |
สาขาวิชาการ : | สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย |
กลุ่มวิชาการ : | วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีพื้นฐานทางวิศวกรรมศาสตร์ |
ลักษณะโครงการวิจัย : | ระดับชาติ |
สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ : | ไม่สะท้อนถึงการใช้ความรู้เชิงอัตลักษณ์ |
สร้างความร่วมมือประหว่างประเทศ GMS : | ไม่สร้างความร่วมมือทางการวิจัยระหว่างประเทศ |
นำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา : | ไม่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาณภาพการศึกษา |
เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต : | เกิดจากความร่วมมือกับภาคการผลิต |
ความสำคัญและที่มาของปัญหา : | ความสำคัญ ที่ทำการวิจัย สอดคล้องกับ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่11 (พ.ศ. 2555-2559) ได้เน้นการพัฒนาตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความเข้มแข็งให้สังคม ชุมชน และท้องถิ่น การเกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อสังคม ชุมชน และท้องถิ่นอย่างมากมาย เช่น ปัญหาความยากจน และปัญหาการใช้ทรัพยากรที่เกิดจากการประกอบอาชีพ (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. 2549: 5-7) สถานการณ์การทำเกษตรกรรมในปัจจุบันเน้นผลผลิตปริมาณมาก การใช้เทคโนโลยีและสารเคมีเป็นปัจจัยหลักสำคัญในกระบวนการผลิต ความเสียหายที่ดีต่อสภาพดิน น้ำ อากาศ ส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ปัจจัยทางธรรมชาติที่เป็นรากฐานการทำเกษตรกรรม ปริมาณผลผลิตที่ได้ตกต่ำและคุณภาพไม่ค่อยจะปลอดภัย สอดคล้องกับรายงานการวิจัย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (รายงานกิจการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร.2550) ปัญหาใหญ่ของเกษตรกรส่วนใหญ่คือ ต้นทุน และความรู้ที่น้อยจึงไม่สามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้เต็มที่ในการผลิต และอีกปัญหาที่พบกันอยู่เสมอคือปัญหาพ่อค้าคนกลาง ราคาที่พ่อค้าคนกลางได้รับจากเกษตรกรนั้นเป็นราคาที่ต่ำมาก แต่กลับไปขายต่อได้ในราคาที่สูง ส่วนต่างจำนวนมากนี้ทำให้กำไรเกือบจะทั้งหมดตกไปอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง
การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย ที่เน้นการสร้างมูลค่าผลผลิตด้วยฐานความรู้ (Value Creation From Knowledge Application) (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. 2549: 5-7) และสอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี (Technology) เศรษฐกิจ (Economic) สังคม (Social) การเมือง (Politics) การค้าระหว่างประเทศ (International Trade) และการแข่งขัน (Competition) จำเป็นต้องมีการจัดการความรู้และ การถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สถาบันพัฒนาการบริหารจัดการระหว่างประเทศ (International Institute for Management Development) มีการศึกษาความสามารถในการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย พบว่าอยู่ในอันดับที่ 43 (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. 2549: 8-9) ทำให้มีความจำเป็นต้องขับเคลื่อนการพัฒนาด้านต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดการทรัพยากร เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันตั้งแต่ระดับชุมชนและสังคมทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
ที่มาของปัญหาที่ทำการวิจัย คือขาดการพัฒนารูป พึ่งพาตนเองตามแนวแบบเศรษฐกิจพอเพียงขาดการจัดการระบบโซ่อุปทานในเชิงพาณิชย์ แต่ที่สำคัญ ชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก พื้นที่การเกษตรในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่วนใหญ่เป็นการปลูกข้าวและพืชไร่ โดยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวมากที่สุดถึงร้อยละ 69.86 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด โดยพื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณที่ราบลุ่มของลุ่มน้ำเจ้าพระยา พืชที่ปลูกในลำดับรองลงมาคือพืชไร่ มีการปลูกประมาณร้อยละ 23.76 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมดโดยจะปลูกบริเวณที่ราบที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ โดยเฉพาะบริเวณฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำ ส่วนพื้นที่การเกษตรที่เหลือมีการปลูกไม้ผล-ไม้ยืนต้นในจำนวนไม่มากนักประมาณร้อยละ 5.74 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมด (กรมชลประทาน.2553) โดยการปลูกข้าวนั้น เกษตรกรต้องใช้เวลารอการเก็บเกี่ยวข้าวนั้นแต่ละครั้ง ประมาณ 3-4 เดือน โดย 1 ปี อาจปลูกข้าวได้ 1-2 ครั้ง เนื่องจากในปัจจุบันนั้นเราจะไปอ้างอิงธรรมชาติค่อนข้างมาก ทำให้รายได้ของเกษตรกรนั้นไม่พอกับรายจ่ายที่ได้ลงทุนไว้ ทำให้เกิดหนี้สิน บางเกษตรกรต้องทำเช่าที่ดินในการทำนา พอเจอกับธรรมชาติที่ไม่คง ทำให้เป็นหนี้สินจำนวนมาก พอหลายๆปี ก็ทำให้มีหนี้สินที่ไม่สามารถใช้ได้หมด ทำให้เป็นผลเสียหลายด้าน
จาก ปัญหาดังกล่าว โครงการวิจัยสามารถทำให้เกษตรกรได้รวมกลุ่มพึ่งพาตนเอง เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจชุมชนเพื่อเป็นหลักประกันการอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ประเทศไทยยังมีทุนที่เป็นทรัพยากร ผลผลิต รวมทั้งทุนทางสังคม โดยเฉพาะความรู้ ภูมิปัญญา ระบบคุณค่าและวัฒนธรรม การส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนได้เรียนรู้ได้พบทุนเหล่านี้ ได้พัฒนาขีดความสามารถในการจัดการทรัพยากรและทุนที่มีอยู่ให้เกิดเป็นระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็ง ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลายและมีระบบการจัดการที่เรียกว่าวิสาหกิจชุมชน |
จุดเด่นของโครงการ : | - |
วัตถุประสงค์ของโครงการ : | 1 เพื่อศึกษารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
2 เพื่อพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
3 เพื่อประเมินผลรูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
|
ขอบเขตของโครงการ : | - |
ผลที่คาดว่าจะได้รับ : | วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นไปตามการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การผลิตและการตลาด โดยใช้ระเบียบการวิจัย มีวิธีดำเนินการโดยใช้วิธีการศึกษา 4 ขั้นตอน ดังนี้
1 ขั้นที่หนึ่ง การเก็บรวบรวบข้อมูล ชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีส่วนร่วม ดังนี้
1.1. การเก็บข้อมูลภาคสนามจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาลักษณะแนวกว้างและลึก โดยใช้ทั้งแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล ทั้งที่เป็นรูปแบบทางการและไม่เป็นทางการ
1.2. การเก็บข้อมูลจากจัดกิจกรรม การศึกษาดูงาน โดยการสังเกตรวบรวมจากการเข้าร่วมกิจกรรมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
1.3. การเก็บข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้นำชุมชน ได้จากการสนทนากลุ่ม การทำเวทีประชาคม และกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
2 ขั้นที่สอง ศึกษารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนี้
2.1 สภาพเศรษฐกิจ
2.2 สังคมและวัฒนธรรม
2.3 สภาพแวดล้อม
2.4 กระบวนการผลิต
2.5 เทคโนโลยีสารสนเทศ
2.6 การวิเคราะห์สภาพปัญหา (SWOT Analysis)
3 ขั้นที่สาม การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
3.1 สร้าง ต้นแบบ
3.2 ทดลอง ต้นแบบ
3.3 วิเคราะห์จากการทดลอง ต้นแบบ
4 ขั้นที่สี่ การประเมินรูปแบบ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน
4.1 ประเมินรูปแบบ การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
4.2 การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนการพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
4.3 จดสิทธิบัตรด้านนวัตกรรมของผลการวิจัย |
การทบทวนวรรณกรรม/สารสนเทศ : | - |
ทฤษฎี สมมุติฐาน กรอบแนวความคิด : | - |
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล : | วิธีการดำเนินการวิจัย การวิจัยการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นไปตามการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ การผลิตและการตลาด โดยใช้ระเบียบการวิจัย มีวิธีดำเนินการโดยใช้วิธีการศึกษา 4 ขั้นตอน ดังนี้
1 ขั้นที่หนึ่ง การเก็บรวบรวบข้อมูล ชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยามีส่วนร่วม ดังนี้
1.1. การเก็บข้อมูลภาคสนามจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาลักษณะแนวกว้างและลึก โดยใช้ทั้งแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล ทั้งที่เป็นรูปแบบทางการและไม่เป็นทางการ
1.2. การเก็บข้อมูลจากจัดกิจกรรม การศึกษาดูงาน โดยการสังเกตรวบรวมจากการเข้าร่วมกิจกรรมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
1.3. การเก็บข้อมูลจากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้นำชุมชน ได้จากการสนทนากลุ่ม การทำเวทีประชาคม และกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
2 ขั้นที่สอง ศึกษารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนี้
2.1 สภาพเศรษฐกิจ
2.2 สังคมและวัฒนธรรม
2.3 สภาพแวดล้อม
2.4 กระบวนการผลิต
2.5 เทคโนโลยีสารสนเทศ
2.6 การวิเคราะห์สภาพปัญหา (SWOT Analysis)
3 ขั้นที่สาม การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
3.1 สร้าง ต้นแบบ
3.2 ทดลอง ต้นแบบ
3.3 วิเคราะห์จากการทดลอง ต้นแบบ
4 ขั้นที่สี่ การประเมินรูปแบบ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน
4.1 ประเมินรูปแบบ การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
4.2 การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนการพัฒนารูปแบบนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าโซ่อุปทานข้าว กลุ่มวิสาหกิจชุมชนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
4.3 จดสิทธิบัตรด้านนวัตกรรมของผลการวิจัย |
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) : | - |
จำนวนเข้าชมโครงการ : | 3611 ครั้ง |